สำหรับคุณแม่ที่มักอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ ท้องแล้วขี้น้อยใจ อารมณ์แปรปรวน เกิดขึ้นจากหลายปัจจัยด้วยกัน แต่สาเหตุหลักๆ เกิดจากการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนภายในร่างกายของคุณแม่ตั้งครรภ์ และความกังวลกับการเปลี่ยนแปลงในชีวิตที่เกิดขึ้นระหว่างการตั้งครรภ์ จนบางครั้งคุณแม่มีอารมณ์เหมือนคนเป็นไบโพล่าเดี่ยวดีเดี๋ยวร้าย เมื่อกี้ยังหัวเราะดีใจตื่นเต้นอยู่เลย สักพักดราม่าร้องไห้ขึ้นมาเฉยๆ
ฮอร์โมนคนท้องทำให้คุณแม่มีอารมณ์แปรปรวน ทำให้เกิดความรู้สึกไม่สบายเนื้อไม่สบายตัว มีอาการแพ้ท้อง คลื่นไส้ อาเจียน บางครั้งแค่ได้กลิ่นอาหารแรงๆ ก็ทนไม่ได้ หรือในทางตรงกันข้ามคือ หิวมาก เพิ่งกินไปเมื่อกี้เอาอีกล่ะอยากกินอีก กินมันทั้งวัน
สำหรับคุณแม่ที่มีอาการแพ้ท้องจะรู้สึกแย่มากขึ้น จิตใจไม่ค่อยอยากจะทำอะไร ทั้งยังความกังวลที่ตามมาอีกมากมายเพราะกลัวว่าลูกจะเป็นอะไรหรือเปล่าแม่กินอะไรก็ไม่ได้ อยากกินแต่ก็ฝืนไม่ไหว พอคนท้องรู้สึกกังวลก็ยิ่งทำให้เกิดความเครียดขึ้นมาอีก เพราะฉะนั้นคุณสามีต้องคอยดูแลภรรยาดรๆ และต้องเข้าใจด้วยหากอยู่ๆ คุณภรรยาอารมณ์เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา
ความเหนื่อยล้าก็เป็นอาการในช่วงแรกๆ ของการตั้งครรภ์ที่คุณแม่ต้องเจอบ่อยๆ อาจเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้คนท้องอารมณ์เปลี่ยนแปลงได้ง่ายเช่นกันค่ะ และหากคุณแม่ที่เคยมีประสบการณ์แท้งลูกในช่วงแรกของการตั้งครรภ์ก็จะยิ่งกังวลมากกว่าเดิม กลัวว่าตัวเองจะต้องเสียลูกอีกหรือเปล่า ซึ่งความกลัวและอาการต่างๆ จะเป็นตัวกระตุ้นอารมณ์ของคนท้องนั่นเอง
สำหรับคนท้องในไตรมาสที่สอง ฮอร์โมนของคนท้องก็ยังคงมีการเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ แต่เคยน้อยกว่าในช่วง 2 – 3 เดือนแรกค่ะ ทำให้คุณแม่หลายคนรู้สึกดีขึ้นเพราะอาการแพ้ท้องได้ทุเลาลงไปแล้ว แต่อย่างไรก็ตามอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ ก็ยังคงอยู่ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นหน้าท้องที่เริ่มใหญ่ขึ้น อาการปวดต่างๆ เริ่มตามมา ในช่วงนี้คุณแม่ก็จะรู้สึกตื่นเต้นพร้อมๆ กับความกังวลที่มีมากขึ้นตามอายุครรภ์ค่ะ
ในไตรมาสนี้คุณแม่หลายคนอาจต้องมีการเจาะน้ำคราำเพื่อเช็คสุขภาพของลูกน้อยในครรภ์ และการเฝ้าติดตามการดิ้น หรือการเคลื่อนไหวของลูกในท้อง ทำให้คุณแม่มีความวิตกต่างๆ นานาภายในจิตใจจนส่งผลต่ออารมณ์ลึกๆ ที่คุณแม่อาจไม่รู้ตัว แต่ก็ยังมีคุณแม่บางท่านที่รู้สึกว่าช่วงนี้มีความต้องการทางเพศสูง ทำให้ตัวเองรู้สึกหวยหาการมีเซ็กส์เพราะตอนนี้ตัวเองเริ่มมีอาการดีขึ้นแล้ว ไม่แพ้ท้องเหมือนเมื่อก่อนค่ะ
ช่วงไตรมาสที่สามคุณแม่จะนอนไม่ค่อยหลับในช่วงกลางคืน ไหนจะความเหนื่อยล้า ความยากลำบาก และความไม่สบายเนื้อสบายตัว เมื่อคุณแม่นอนไม่ค่อยพอก็จะทำให้เกิดอารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่ายค่ะ อีกทั้งยังความกังวลเกี่ยวกับลูกน้อยอีกด้วย
1.อดทนให้มากขึ้น
เมื่อคุณแม่รู้สึกว่าตัวเองเริ่มหงุดหงิดหรือมีอาการไม่พอใจกับเหตุการณ์บางอย่าง ควรพาตัวเองออกจากที่ตีงนั้น หรือพยายามทำให้ตัวเองสงบสติอารมณ์ลง แต่ก็มีคุณแม่หลายคนที่ปล่อยให้ตัวเองไปกับอารมณ์คนท้องมากเกินไปจนทำให้ตัวเองเครียดได้ และอาการเครียดนานๆ กับคนท้องย่อมส่งผลไม่ดีกับคุณแม่และลูกในท้องค่ะ เพราะอาจทำให้ลูกมีอาการโคลิคเมื่อคลอดออกมาได้
2.พูดคุยกับสามี
คุณแม่ควรคุยกับคุณพ่อถึงเรื่องอารมณ์คนท้อง อารมณ์ที่ขึ้นๆ ลง เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย หรือว่าอยู่ๆ น้อยใจ ร้องไห้ออกมาแบบไม่มีเหตุผล อารมณ์เหล่านี้อาจไม่ได้เกิดขึ้นเพราะว่าสามีหรือคนรอบข้าง แต่มันเกิดขึ้นจากฮอร์โมนของคนท้องเอง พวกเขาจะได้ไม่ต้องกังวลใจหรือต้องทำให้พวกเขาเข้าใจคนท้องให้มากขึ้น
3.เตรียมรับมือกับอาการแพ้ท้อง
เวลาที่คนท้องแพ้ท้องมักทำให้ตัวคุณแม่รู้สึกไม่ดี รู้สึกแย่ จากการที่กินอะไรไม่ได้ เหนื่อยง่าย อยากนอน อยากอาเจียนตลอดเวลา และอาจนำไปสู่อารมณ์แปรปรวนได้ ดังนั้นคุณแม่ต้องเตรียมตัวให้พร้อมหากต้องออกเดินทางไปทำงาน เตรียมของกิน หรือพักผ่อนมากๆ เพื่อไม่ให้ถูกอาการแพ้ท้องจู่โจม
4.จัดการกับเวลานอน
การพักผ่อนเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคนท้องมาก ถึงแม้ว่าช่วงไตรมาสสุดท้ายคุณแม่จะนอนหลับยาก หรือรู้สึกไม่สบายตัวก็ตาม ส่วนในระหว่างวันหากรู้สึกง่วงควรหาเวลาพักผ่อนโดยการงีบตอนกลางวัน อาจจจะเป็นช่วงพักเที่ยงในแต่ละวันก็ได้ค่ะ
5.พูดคุยกับคุณแม่ท่านอื่น
เวลาที่คุณแม่รู้สึกังวล เครียด เรื่องการเตรียมตัวเป็นคุณแม่มือใหม่ หรือความกังวลเกี่ยวกัลเรื่องของคนท้องคงไม่มีใครเข้าใจและสามารถที่จะเป็นที่ปรึกษาของคุณแม่ที่ดีได้ นอกจากระหว่างคุณแม่ด้วยกันค่ะ ดังนั้น หากมีเรื่องที่ไม่สบายใจการพูดคุยแลกเปลี่ยนวิธีการดูแลตนเองของคนท้องและการเลี้ยงลูกขะทำให้คุณแม่รู้สึกดีขึ้นค่ะ
6.เล่นโยคะหรือนั่งสมาธิ
การเล่นโยคะจะทำให้คุณแม่มีความสงบมากขึ้น ทั้งยังช่วยลดความวิตกกังวลลงไปได้ หรือแม้แต่การนั่งสมาธิค่ะ นอกจากนี้การเล่นโยคะระหว่างตั้งครรภ์ยังเป็นการช่วยลดอาการปวดเมื่อย และการเตรียมตัวคลอดสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ได้ดีอีกด้วย
7.เลิกอ่านบทความที่ทำให้เครียด
บางครั้งบทความ หรือข่าวที่น่ากลัวๆ หรือรุนแรงอาจสร้างความเครียดและความวิตกกังวลให้กับคนท้องมากขึ้น หากเป็นไปได้ บทความไหนที่รู้สึกว่ากระทบกระเทือนจิตใจ พยายามอย่าอื่น หรือหลีกเลี่ยงให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ค่ะ
ขอบคุณบทความดีๆ จาก https://th.theasianparent.com